ได้สะเดากำใหญ่มาจากตลาด
เห็นมันกำใหญ่ดูสดดีก็เลยอยากกิน สะเดาน้ำปลาหวาน
แล้วก็เดินหาปลาดุกอย่างอยู่พักใหญ่
ว่าแล้วก็เข้าครัวทำสะเดาน้ำปลาหวานกินดีกว่า
สะเดาที่หลายคนไม่ชอบกินเพราะว่ามันมีรสชาติ ออกขมๆ มันๆ
ก็อย่างที่เค้าบอกละค่ะ ว่าหวานเป็นลงขมเป็นยา
สะเดามีสรรพคุณช่วยบำรุงสายตา แก้ร้อนใน และยังช่วยย่อยอาหารอีกด้วย
ส่วนผสมและสัดส่วน
1. น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย
2. น้ำปลา 1/4 -1/2 ถ้วย
3. น้ำมะขามเปียก 1/4 ถ้วย
4. หอมแดงเจียว 1/4 ถ้วย
5. กระเทียมเจียว 1/4 ถ้วย
6. พริกแห้งทอด ตามชอบ
7. สะเดา (เลือกที่ยอกอ่อน) ตามชอบ
8. ปลาดุกย่าง
2. น้ำปลา 1/4 -1/2 ถ้วย
3. น้ำมะขามเปียก 1/4 ถ้วย
4. หอมแดงเจียว 1/4 ถ้วย
5. กระเทียมเจียว 1/4 ถ้วย
6. พริกแห้งทอด ตามชอบ
7. สะเดา (เลือกที่ยอกอ่อน) ตามชอบ
8. ปลาดุกย่าง
วิธีปรุง
1. น้ำตาล น้ำปลาและน้ำผสมกันแล้วนำไปตั้งไฟอ่อน
เคี่ยวจนเริ่มเหนียว ยกลงตักใส่ถ้วย
แล้วโรยด้วยพริกแห้งทอดหอมแดงและกระเทียมเจียว
2. นำสะเดาไปล้างให้สะอาดใส่กระชอนไว้ จากนั้นต้มน้ำให้เดือด เอาน้ำเดือดเทลวกสะเดารอจนสะเดาเปลี่ยนสี หรือจะเอาสะเดาลงไปลวกในหม้อเลยก็ได้
3.จัดใส่จาน กินกับปลาดุกย่าง / กุ้งเผา / ปลาทูย่าง และผักสดชนิดอื่นๆก็ได้ตามชอบ เช่นผักชี
2. นำสะเดาไปล้างให้สะอาดใส่กระชอนไว้ จากนั้นต้มน้ำให้เดือด เอาน้ำเดือดเทลวกสะเดารอจนสะเดาเปลี่ยนสี หรือจะเอาสะเดาลงไปลวกในหม้อเลยก็ได้
3.จัดใส่จาน กินกับปลาดุกย่าง / กุ้งเผา / ปลาทูย่าง และผักสดชนิดอื่นๆก็ได้ตามชอบ เช่นผักชี
เคล็ดลับน่ารู้
- ถ้านำสะเดาลงไปลวกในหม้อ ต้องอย่าลวกนานเพราะจะทำให้สะเดาเหนียวกินไม่อร่อย
- การลดความขมของสะเดา ให้ลวกสะเดาด้วยน้ำซาวข้าวตั้งไฟให้น้ำเดือดจัด ใส่เกลือเล็กน้อย นำสะเดาลงไปลวกให้สลด (ใบยุบ) ตักขึ้นมาแช่ในน้ำเย็นจัด จะช่วยให้สีสะเดาเขียวสวย และลดความขมลงไปได้มาก ถ้าไม่มีน้ำซาวข้าวใช้น้ำเปล่าผสมแป้งข้าวเจ้า หรือ แป้งข้าวเหนียวเล็กน้อยแทนก็ได้
- การลดความขมของสะเดา ให้ลวกสะเดาด้วยน้ำซาวข้าวตั้งไฟให้น้ำเดือดจัด ใส่เกลือเล็กน้อย นำสะเดาลงไปลวกให้สลด (ใบยุบ) ตักขึ้นมาแช่ในน้ำเย็นจัด จะช่วยให้สีสะเดาเขียวสวย และลดความขมลงไปได้มาก ถ้าไม่มีน้ำซาวข้าวใช้น้ำเปล่าผสมแป้งข้าวเจ้า หรือ แป้งข้าวเหนียวเล็กน้อยแทนก็ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น