ระยะนี้ มีใครเคยได้ยิน กระแส
ความนิยมกิน มะรุม ต้านมะเร็งกันบ้าง แหม..เห็นประโยชน์ของมะรุมแล้ว มันมากมายเสียเหลือเกิน เรามาลองทำแกงส้มมะรุม-กุ้ง
ทานกันดีกว่า
ประโยชน์ของมะรุมนั้นมีมากมาย
- ใช้รักษาโรคขาดอาหารในเด็กแรกเกิดถึง
10 ขวบ และลดสถิติการเสียชีวิต พิการ และตาบอดได้เป็นอย่างดี
โดยผ่านทางน้ำนมมารดา
- ใช้รักษาผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานให้อยู่ในภาวะควบคุมได้
สามารถลดการใช้ยาลงได้
- รักษาโรคความดันโลหิตสูงให้อยู่ในภาวะควบคุมได้
- ถ้ารับประทานสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันไม่ให้เป็นโรคมะเร็ง
แต่ถ้าหากเป็นก็จะช่วยให้การรักษาพยาบาลง่ายขึ้น ในบางกรณีสามารถหยุดการเจริญเติบโตของโรคร้ายได้
ถ้าใช้ควบคู่ไปกับยาแพทย์แผนปัจจุบัน หากผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งได้รับการรักษาด้วยรังสี
การดื่มน้ำมะรุมจะช่วยให้การแพ้รังสีฟื้นตัวเร็วขึ้นและมีร่างกายที่แข็งแรง
- รักษาโรคตาเกือบทุกชนิด
เช่น โรคตามืดตามัวเพราะขาดสารอาหารที่จำเป็น โรคตาต้อ เป็นต้น
หากรับประทานสม่ำเสมอ จะทำให้ตามีสุขภาพที่สมบูรณ์
- รักษาโรคลำไส้อักเสบ
โรคเกี่ยวกับท้อง ท้องเสีย ท้องผูก โรคพยาธิในลำไส้
- รักษาปอดให้แข็งแรง
รักษาโรคทางเดินของลมหายใจ และโรคปอดอักเสบ หอบหืด และโรคภูมิแพ้
- ช่วยเชื่อมต่อกระดูกที่หักได้ผลรวดเร็ว
พอทราบถึงประโยชน์อันมากหลายของมะรุมแล้ว ต่อไปมาดูขั้นตอนการทำอันแสนง่าย
แต่มากประโยชน์กันจ้า
วิธีทำแกงส้มมะรุม
เครื่องปรุงแกงส้มมะรุม
- มะรุมปอกเปลือก 500 กรัม / 10 ฝัก
- น้ำมะขามเปียก 1 ถ้วยตวง
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา ครึ่งถ้วยตวง
- กุ้งสด(ล้างผ่าหลังเอาเส้นดำออก) 200 กรัม
- ใบแมงลัก 1 ถ้วยตวง
- น้ำเปล่า 1.5 ลิตร
เครื่องปรุงน้ำพริกแกง
- พริกชี้ฟ้าแห้ง(แช่น้ำ) 10 เม็ด
- กระชาย 10 ราก
- หัวหอมแดง 10 หัว
- กะปิ 1 ช้อนชา
- เนื้อปลาทูแกะเอาแต่เนื้อ 2 ตัว
- เกลือป่น (เกลือผสมไอโอดีจะดีมาก) 1 ช้อนชา
**เอาพริกมาโขลกกับเกลือ
ให้แหลกก่อนแล้ว ทยอยใส่ หัวหอมแดง + กระชาย +กะปิ +เนื้อปลา ตำให้ละเอียด
ตักพักไว้
วิธีทำ
นำน้ำพริกแกง
ละลายกับน้ำเปล่า ใส่มะรุม ยกตั่งไฟ ปานกลาง รอจนเดือด ใสกุ้ง ค่อยๆๆเติมน้ำปลา
+น้ำตาล +น้ำมะขามเปียก ชิมรส แกงส้มที่ดี ต้องมีเปรี้ยวนำ เผ็ดหวาน เค็ม ตามกัน
ได้รสที่ต้องการ ใส่ใบแมงลัก ยกลง ตัก รับประทานกับข้าวสวย หรือจะทอดไข่เจียว
ทานคู่กัน ยิ่งจะทำให้เจริญอาหารนักแล เมนูนี้ ทานได้ทั้งครอบครัวเลย
***ถ้าใครต้องการรับประทานปลาก็เปลี่ยนเป็น
ปลาช่อนก็ได้นะจ๊ะ แต่เวลาล้างปลาจะต้องเอาเกลือป่นคลุกๆ และล้างจนหมดเมือกซะก่อน และเวลาจะใส่ปลาลงในน้ำแกง
ต้องรอให้เดือดผล่านก่อน และอย่าคนนานปลาจะแหลก
แถมเหม็นคาว กินกันไม่ลงเชียวนะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น